เนื่องจาก Jitta Score นั้นคำนวณจากงบการเงินที่ผ่านมา 10 ปี ไม่ได้นำชื่อเสียง ขนาด หรือแผนการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทเข้ามาพิจารณาด้วย จึงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจอย่างเที่ยงตรง ดั่งที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์เคยกล่าวไว้ว่า “กระจกมองหลังย่อมชัดกว่ากระจกมองหน้าเสมอ”
สำหรับบริษัทที่มี Jitta Score ต่ำมากอย่างน่าประหลาดใจ คุณสามารถหาสาเหตุได้จาก Jitta Signs และ Jitta Factors โดย Jitta Signs จะแสดงให้เห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของบริษัท ในขณะที่ Jitta Factors จะให้คุณเห็นคุณภาพของธุรกิจใน 5 มิติสำคัญ ได้แก่ โอกาสในการเติบโต ผลประกอบการล่าสุด ความแข็งแกร่งทางการเงิน ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น และความเหนือกว่าคู่แข่ง
ส่วนสาเหตุที่ Jitta Score ของบริษัทไม่สูงมาก อาจจะมาจากการบริหารกำไรของบริษัทไม่ดีเท่าที่ควร มีหนี้อยู่ในระดับที่สูงเกินไป ไม่สามารถควบคุมราคาขายและต้นทุนได้ดี หรือการเติบโตของบริษัทอยู่ในช่วงอิ่มตัวมากแล้ว เป็นต้น
ดังเช่น Berkshire Hathaway บริษัทของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่มี Jitta Score อยู่ที่ 5 ถึง 6 คะแนน แม้จะไม่ถือว่าต่ำ แต่ก็ไม่ได้สูงมากเท่าที่เราคิดว่าควรจะเป็น สาเหตุหนึ่งก็เพราะว่าขนาดของธุรกิจนั้นค่อนข้างใหญ่แล้ว อัตราการเติบโตก็ช้าลง การลงทุนใน Berkshire จึงไม่ให้กำไรดีเท่าการซื้อบริษัทที่ขนาดเล็กกว่าแต่กำลังเติบโต หากคุณซื้อ Berkshire ช่วงปี 2008-2015 กำไรก็อาจจะเกิน 100% มานิดหน่อย ในขณะเดียวกัน ถ้าคุณซื้อหุ้นที่ได้คะแนน Jitta Score สูงๆในช่วงเวลาเดียวกัน คุณจะได้กำไรถึง 500% เพราะบริษัทที่แข็งแกร่งเหล่านั้นกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด